การวางแผนการยก และการคำนวณ Lifting Plan ในงานก่อสร้าง

ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและงานยกวัสดุขนาดใหญ่ เครน หรือรถปั้นจั่น ถือเป็นเครื่องจักรที่มีบทบาทสำคัญในการทุ่นแรงและขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพในการยกน้ำหนักมหาศาล ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงและอันตรายจากการใช้เครนที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงหากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้คือ “การวางแผนการยก” หรือ Lifting Plan ซึ่งเป็นกระบวนการประเมินและคำนวณอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
การคำนวณ Lifting Plan สำคัญอย่างไร
อุบัติเหตุจากการใช้ปั้นจั่น เช่น เครนล้ม สลิงขาด หรือวัสดุที่ยกตกหล่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งและส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล สาเหตุหลักประการหนึ่งคือการขาดความรู้ความเข้าใจและการตระหนักถึงอันตรายของผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้นการทำ Lifting Plan จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะในงานยกที่มีลักษณะพิเศษตามที่กฎกระทรวงกำหนด เช่น การใช้เครนตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป การยกวัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่าร้อยละ 75 ของพิกัดยกที่ปลอดภัย หรือการยกใกล้สายไฟฟ้า การวางแผนการยกที่ถูกต้องและละเอียดจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงการใช้เครนอย่างปลอดภัย และลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้
แผนการยกที่ดีควรจัดทำโดยผู้ควบคุมการใช้เครนที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้อง และต้องระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น รายชื่อผู้เกี่ยวข้อง ตารางการยก รายละเอียดของเครนและอุปกรณ์ประกอบการยก ข้อมูลวัสดุที่ยก ความสามารถในการรับน้ำหนักของพื้นที่รองรับเครน และขั้นตอนการยกพร้อมมาตรการความปลอดภัย
วิธีคำนวณ Lifting Plan ทำอย่างไร

การคำนวณ Lifting Plan เป็นหัวใจสำคัญของการวางแผนการยกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้
1. คำนวณหาระยะยก B หรือ Working Radius
Working Radius (B) คือระยะที่วัดจากจุดศูนย์กลางของเอวสวิงของเครนไปจนถึงจุดศูนย์กลางของชิ้นงานที่ทำการยก การวัดระยะนี้ต้องมีความแม่นยำสูง เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดขีดจำกัดน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ ยิ่งระยะยกเพิ่มขึ้น ความสามารถในการยกของเครนก็จะลดลง
2. คำนวณหาระยะความสูง H หรือ Lifting Height
Lifting Height (H) คือระยะความสูงจากพื้นดินถึงปลายบูมที่ทำการยก โดยต้องคำนวณรวมความสูงของจุดวางชิ้นงาน ความสูงของชิ้นงานและอุปกรณ์ช่วยยก (เช่น สลิง ตะขอ) และเผื่อระยะที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย
สูตรคำนวณคือ: ความสูง H = ความสูงจุดที่วาง + ความสูงชิ้นงานและอุปกรณ์ช่วยยก + ระยะเผื่อ
3. คำนวณหาระยะความยาวบูม A หรือ Boom Length
เมื่อทราบค่า Working Radius และ Lifting Height แล้ว สามารถนำมาหาค่าความยาวบูม (A) ที่เหมาะสมได้จากตารางการยก (Loading Chart) โดยการทำเครื่องหมายที่ค่า Working Radius และ Lifting Height บนตาราง แล้วลากเส้นเชื่อมเพื่อหาความยาวบูมที่ต้องยืดออก
4. อ่านค่าจากตารางน้ำหนัก หรือ Loading Chart
ตารางน้ำหนัก (Loading Chart) เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงพิกัดยกสูงสุดที่เครนสามารถยกได้ในแต่ละระยะความยาวบูมและ Working Radius เมื่อได้ค่าความยาวบูม (A) และ Working Radius (B) ที่ต้องการแล้ว ให้นำค่าทั้งสองไปอ่านพิกัดยกจากตารางนี้
5. คำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ทั้งหมด
น้ำหนักที่เครนต้องยกทั้งหมดไม่ได้มีเพียงแค่น้ำหนักของชิ้นงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้ำหนักของอุปกรณ์ประกอบการยกทั้งหมด เช่น สลิง ตะขอเครน และอุปกรณ์ช่วยยกอื่น ๆ
สูตรคำนวณคือ: น้ำหนักการยกทั้งหมด = น้ำหนักชิ้นงาน + น้ำหนักสลิงและตะขอเครน + น้ำหนักของอุปกรณ์ช่วยยก
6. แปลงพิกัดยกเป็นเปอร์เซ็นต์ %
หลังจากคำนวณน้ำหนักรวมที่ต้องยกได้แล้ว ควรนำมาเปรียบเทียบกับพิกัดยกที่ปลอดภัยของเครน โดยแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้มั่นใจว่าการยกจะอยู่ในขีดจำกัดที่ปลอดภัย โดยทั่วไป พิกัดของการยกไม่ควรเกิน 75 – 85 % ของความสามารถสูงสุดของเครน เพื่อเผื่อความปลอดภัยที่เพียงพอ โดยเฉพาะหากเครนนั้นไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือต้องการน้ำหนักถ่วงเพิ่มเติม
มาตรการรักษาความปลอดภัย

นอกจากการคำนวณที่แม่นยำแล้ว มาตรการความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป
- ประเมินสถานที่: ตรวจสอบสภาพพื้นดิน ความมั่นคงของพื้นที่ตั้งเครน และเส้นทางสำหรับการหมุนของบูม
- ตรวจสอบเครน: ก่อนการปฏิบัติงานทุกครั้ง ต้องตรวจสอบสภาพของเครน รวมถึงสลิงและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ของเครนอย่างละเอียด ควรมีการทำ test load เครน เป็นประจำ และปฏิบัติตาม คู่มือการใช้เครนในโรงงานอย่างเคร่งครัด
- สื่อสารระหว่างทีมงาน: กำหนดสัญญาณมือหรือวิธีการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ควบคุมเครน ผู้สั่งการยก และพนักงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปบทความ
การวางแผนการยก (Lifting Plan) เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบและการคำนวณที่แม่นยำ เพื่อให้มั่นใจว่าการยกวัสดุด้วยเครนจะดำเนินไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจ วิธีคำนวณ lifting plan ในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การหาระยะยก ความสูง ความยาวบูม การอ่านตารางน้ำหนัก ไปจนถึงการคำนวณน้ำหนักรวมที่ต้องยก และการแปลงพิกัดยกเป็นเปอร์เซ็นต์ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ นอกจากนี้ การปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและการประเมินความเสี่ยงก่อนการยก จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของทุกคนในพื้นที่ปฏิบัติงาน
สำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาทีมงานด้านการใช้เครนอย่างปลอดภัยและเป็นมืออาชีพ การลงทุนอบรมผู้ให้สัญญาณเครนถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า TTM Crane ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการรอกและเครนอุตสาหกรรม พร้อมให้บริการอบรมหลักสูตรการใช้เครนตามกฎหมายกำหนด โดยศูนย์ฝึกอบรมมาตรฐานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015, ISO 14001:2015 และ ISO 45001:2018 การเลือกศูนย์ฝึกอบรมที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้การพัฒนาบุคลากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane
ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล
ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015 สิ่งแวดล้อม 14001:2015 ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018
———————————————————-
📌ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่
📞Tel : 092-874-4551
ID Line: jirayuttm
Facebook: รอกเครนลิฟต์ ttmcrane เครนและรอกไฟฟ้า ทีมตรวจซ่อมบำรุง อะไหล่ อบรมครบวงจร
Email: contact@ttmcrane.com
Website: www.ttmcrane.com















