3 กรณีศึกษาอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้า: บทเรียนราคาแพงที่ป้องกันได้
ในโลกของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ รอกไฟฟ้า กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการยกและเคลื่อนย้ายของหนักภายในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และพื้นที่ก่อสร้าง แม้รอกไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานอย่างมาก แต่เบื้องหลังความสะดวกสบายนั้น ก็มีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าที่อาจนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัส หรือแม้กระทั่งการสูญเสียชีวิต หากไม่ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย 5 ข้อที่สำคัญ บทความนี้จะนำเสนอ 3 กรณีศึกษาอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าจริงที่เกิดขึ้นบ่อยในสถานประกอบการต่างๆ พร้อมวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติงานรอกไฟฟ้าสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
ความจริงน่ารู้: อุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนและรุนแรงเพียงใด?
ก่อนที่เราจะเข้าสู่กรณีศึกษาต่างๆ เป็นสำคัญที่ผู้อ่านจะต้องเข้าใจภาพรวมของปัญหาอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าในบริบทของอุตสาหกรรมไทยและสากล หลายคนอาจคิดว่าอุบัติเหตุเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัว แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม สถิติและข้อมูลจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการทำงานชี้ให้เห็นว่าอุบัติเหตุจากการใช้งานอุปกรณ์ยกของหนักยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้หากมีการเตรียมความพร้อมและการดูแลรักษาที่เหมาะสม
สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรม
จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครนและรอกมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 15-20 ของอุบัติเหตุทั้งหมด โดยสาเหตุหลักมาจากการบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ การใช้งานที่ไม่ถูกวิธี และการขาดความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัย สถิติเหล่านี้ชี้ชัดว่าการลงทุนในด้านความปลอดภัยและการฝึกอบรมพนักงานไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อป้องกันความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ผลกระทบที่ตามมา: ไม่ใช่แค่การบาดเจ็บ แต่คือชีวิตและธุรกิจ
เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าขึ้น ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบาดเจ็บของผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการหยุดชะงักของสายการผลิต ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าชดเชยแรงงาน ความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท และที่สำคัญคือการสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ยังอาจมีค่าปรับจากหน่วยงานราชการหากตรวจพบว่ามีการละเลยมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้นการเข้าใจและป้องกันอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง
กรณีศึกษาที่ 1: สลิง/โซ่ขาด ทำให้ของตกหล่นทับ
หนึ่งในประเภทของอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าที่พบบ่อยที่สุดและมีความรุนแรงสูงคือเหตุการณ์ที่สลิงหรือโซ่ขาดกะทันหันขณะกำลังยกของ ทำให้วัสดุหรือชิ้นงานตกลงมาอย่างรวดเร็ว อาจทับพนักงานที่ยืนอยู่ด้านล่างหรือทำลายเครื่องจักรราคาแพง กรณีศึกษานี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการละเลยการตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งานรอกยกของไฟฟ้าแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ผลที่ร้ายแรงได้
ลักษณะเหตุการณ์: เกิดอะไรขึ้น?
ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งหนึ่ง พนักงานกำลังใช้รอกไฟฟ้ายกแผ่นเหล็กหนักประมาณ 800 กิโลกรัม ขณะที่ยกขึ้นถึงความสูงประมาณ 3 เมตร สลิงเหล็กเส้นหนึ่งขาดลงทันที ทำให้แผ่นเหล็กตกลงมาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ไม่มีพนักงานยืนอยู่ใต้บริเวณนั้นขณะเกิดเหตุ แต่แผ่นเหล็กกระแทกกับเครื่องจักรราคาหลายแสนบาทจนเสียหายอย่างหนัก การผลิตต้องหยุดชะงักเป็นเวลา 2 วัน เพื่อทำการซ่อมแซมและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบทั้งหมด
วิเคราะห์สาเหตุ
เมื่อทีมงานด้านความปลอดภัยทำการสอบสวนและวิเคราะห์อุบัติเหตุครั้งนี้ พบสาเหตุหลักหลายประการที่นำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าว ประการแรกคือการรับน้ำหนักเกินพิกัดที่กำหนด โดยสลิงที่ใช้มีกำลังรับน้ำหนักเพียง 500 กิโลกรัม แต่ถูกใช้ยกของหนัก 800 กิโลกรัม ซึ่งเกินขีดจำกัดความปลอดภัยอย่างชัดเจน ประการที่สองคือสภาพของสลิงที่เสื่อมสภาพจากการใช้งานมานานกว่า 3 ปีโดยไม่มีการเปลี่ยนใหม่ มีรอยขาดและสนิมเกาะอยู่ตามจุดต่างๆ แต่ไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนใช้งาน และประการสุดท้ายคือการใช้งานในลักษณะที่ผิดประเภท โดยมีการลากสลิงในแนวเฉียงซึ่งทำให้เกิดแรงเสียดทานและความเครียดที่จุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษ
แนวทางการป้องกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก มีแนวทางปฏิบัติที่สำคัญหลายประการ อันดับแรกคือการตรวจสอบสภาพของสลิงและโซ่ทุกวันก่อนเริ่มงาน โดยดูรอยขาด รอยสึกหรอ การเสียรูป และสนิม หากพบความผิดปกติต้องรีบเปลี่ยนทันที ประการที่สองคือการอบรมพนักงานให้มีความรู้เกี่ยวกับการใช้งานรอกไฟฟ้าอย่างถูกต้อง รวมถึงการใช้สัญญาณมือมาตรฐานในการสื่อสารระหว่างผู้ควบคุมและผู้ให้สัญญาณ และประการสุดท้ายคือการคำนวณน้ำหนักของวัสดุที่จะยกก่อนทุกครั้ง พร้อมเลือกใช้สลิงหรือโซ่ที่มีกำลังรับน้ำหนักเหมาะสมและมีค่า Safety Factor ที่เพียงพอ
กรณีศึกษาที่ 2: ระบบเบรกทำงานผิดพลาด (Brake Failure)
ระบบเบรกของรอกไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญในการควบคุมและรักษาความปลอดภัยขณะยกของ เมื่อระบบเบรกเกิดความผิดพลาด อาจส่งผลให้ชิ้นงานที่กำลังยกค้างอยู่ร่วงลงมาอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อทั้งบุคคลและทรัพย์สิน
ลักษณะเหตุการณ์: ยกของค้างไว้แล้วร่วงลงมา
ตัวอย่างในโรงงานแห่งหนึ่ง มีการใช้รอกไฟฟ้ายกเครื่องยนต์หนักประมาณ 300 กิโลกรัมเพื่อติดตั้งลงในตัวถัง ขณะที่พนักงานกำลังปรับตำแหน่งเครื่องยนต์อย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นระบบเบรกของรอกก็ทำงานผิดพลาด ทำให้เครื่องยนต์ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่พนักงานสามารถหลบหนีทันเวลา แต่เครื่องยนต์มูลค่าหลายแสนบาทได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง และตัวถังที่กำลังประกอบก็บุบเสียหายไปด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับพนักงานคนอื่นๆ และเป็นเหตุให้สายการผลิตต้องหยุดชะงักทันที
วิเคราะห์สาเหตุ
การตรวจสอบหาสาเหตุหลังเกิดเหตุพบว่า ระบบเบรกของรอกไฟฟ้าตัวนี้มีปัญหาหลายประการที่สะสมมาเป็นเวลานาน ประการแรกคือผ้าเบรกที่สึกหรอจนหมดสภาพการทำงาน เนื่องจากรอกตัวนี้ถูกใช้งานหนักมาเป็นเวลากว่า 5 ปี โดยไม่เคยมีการเปลี่ยนผ้าเบรกเลย แม้จะมีอาการเสียงดังผิดปกติมาระยะหนึ่งแล้ว ประการที่สองคือระบบไฟฟ้าที่ควบคุมการทำงานของเบรกมีปัญหา เนื่องจากมีการลัดวงจรเล็กน้อยที่ไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เบรกไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และประการสุดท้ายคือการขาดการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด โรงงานแห่งนี้ไม่มีแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่ชัดเจน ทำให้ปัญหาต่างๆ สะสมจนกลายเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง
แนวทางการป้องกัน
เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าประเภทนี้ ขั้นตอนสำคัญคือการจัดทำเช็กลิสต์การตรวจสอบระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ ทั้งรายเดือนและรายปี โดยให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบและบันทึกผลไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ พนักงานผู้ใช้งานควรได้รับการฝึกอบรมให้สามารถสังเกตเสียงหรืออาการผิดปกติของเบรก เช่น เสียงดังผิดปกติ การสะดุด หรือการตอบสนองที่ช้ากว่าปกติ หากพบความผิดปกติใดๆ ต้องหยุดใช้งานทันทีและแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อทำการตรวจสอบและซ่อมแซม ที่สำคัญคือต้องมีการวางแผนบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่ชัดเจน โดยอาจใช้บริการจากศูนย์บริการมาตรฐานเช่น TTM Crane ที่มีทีมช่างมืออาชีพและประสบการณ์ในการดูแลรักษารอกไฟฟ้าและเครนทุกยี่ห้อ
กรณีศึกษาที่ 3: ไฟฟ้าดูด/ไฟฟ้ารั่วจากรอก
อุบัติเหตุจากไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้ารั่วถือเป็นภัยร้ายแรงที่มักถูกมองข้าม เพราะหลายครั้งอาการเริ่มแรกอาจไม่รุนแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้
ลักษณะเหตุการณ์: ผู้ใช้งานถูกไฟฟ้าดูดขณะสัมผัสปุ่มควบคุมหรือตัวรอก
ในคลังสินค้าขนาดกลางแห่งหนึ่ง พนักงานเปิดรอกไฟฟ้าเพื่อยกกล่องสินค้าตามปกติ แต่เมื่อจับที่ปุ่มควบคุมก็รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าช็อตที่มือ ในตอนแรกพนักงานคนนั้นคิดว่าเป็นแค่ไฟฟ้าสถิตธรรมดา แต่เมื่อสัมผัสอีกครั้งกระแสไฟฟ้าแรงขึ้นจนทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและต้องส่งโรงพยาบาลด่วน เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับพนักงานคนอื่นๆ และเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบไฟฟ้าของรอกไฟฟ้ามีปัญหาร้ายแรง
วิเคราะห์สาเหตุ
การตรวจสอบโดยช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญพบว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าครั้งนี้มาจากสายดินที่ไม่ได้ถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง จากการตรวจสอบพบว่าตัวรอกไม่มีสายดินเชื่อมต่อเลย หรือถ้ามีก็หลวมจนไม่ทำงาน ทำให้เมื่อมีไฟฟ้ารั่วจากภายในตัวรอก กระแสไฟฟ้าก็ไม่มีทางระบายสู่ดิน สาเหตุประการที่สองคือฉนวนของสายไฟภายในเก่าและเปื่อยผุจากการใช้งานมานานกว่า 8 ปีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ทำให้ฉนวนแตกและมีไฟฟ้ารั่วออกมาสัมผัสกับโครงโลหะของตัวรอก นอกจากนี้ยังพบว่าตู้คอนโทรลมีน้ำและความชื้นเข้าไปสะสมอยู่ภายใน เพราะไม่มีการปิดผนึกที่ดีพอ และมีการติดตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการฉีดน้ำล้างพื้นเป็นประจำ
แนวทางการป้องกัน
การป้องกันอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าที่เกี่ยวกับไฟฟ้ารั่วจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับหลายมิติ ประการแรกคือการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละครั้ง รวมถึงการทดสอบค่าความต้านทานของสายดินและการตรวจวัดกระแสรั่ว ประการที่สองคือการติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว (ELCB) หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่มีความไวสูง ซึ่งจะตัดไฟอัตโนมัติทันทีเมื่อตรวจพบกระแสรั่ว การลงทุนในอุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้มีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของพนักงานและการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักอาการเตือนของไฟฟ้ารั่ว และสอนให้รู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีผู้ถูกไฟฟ้าช็อต
สรุปบทความ
จากทั้ง 3 กรณีศึกษาอุบัติเหตุจากรอกไฟฟ้าที่ได้นำเสนอ จะเห็นได้ชัดว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้หากมีการเตรียมความพร้อมที่ดี ทั้งในด้านการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ การตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน และการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ความปลอดภัยไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการวางระบบและการปฏิบัติอย่างจริงจัง
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานรอกไฟฟ้า การเลือกใช้บริการจากศูนย์บริการมาตรฐานที่ได้รับการรับรองเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด TTM Crane ในฐานะศูนย์บริการครบวงจรด้านรอกและเครนอุตสาหกรรม พร้อมให้บริการตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษา ซ่อมแซม ไปจนถึงการอบรมพนักงานตามมาตรฐานสากล ISO 9001:2015, ISO 14001:2015 และ ISO 45001:2018 การลงทุนในความปลอดภัยวันนี้ คือการประหยัดค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และที่สำคัญกว่านั้นคือการปกป้องชีวิตของพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร
📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015 สิ่งแวดล้อม 14001:2015 ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018
ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่
📞Tel : 092-874-4551
ID Line: jirayuttm
Facebook: https://www.facebook.com/ttmcrane
Email: contact@ttmcrane.comWebsite: http://www.ttmcrane.com













