การบำรุงรักษารอกไฟฟ้า (Electric Hoist Maintenance)

ในยุคที่โรงงานอุตสาหกรรมไทยต้องแข่งขันด้านประสิทธิภาพการผลิต การบำรุงรักษารอกไฟฟ้า กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน รอกไฟฟ้าที่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ปี ในขณะที่การละเลยการบำรุงรักษา อาจทำให้อายุการใช้งานลดลงกว่าครึ่ง
ทำไมการบำรุงรักษารอกไฟฟ้าจึงสำคัญ?
การดูแลรอกไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจ โรงงานที่มีระบบบำรุงรักษาที่ดี จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการซ่อมใหญ่หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทั้งชุด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการหยุดชะงักของสายการผลิตที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า แนะนำให้เลือกใช้อะไหล่คุณภาพจากอะไหล่รอกและเครน เพื่อยืดอายุการใช้งาน

ตารางการบำรุงรักษารอกไฟฟ้า: ต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง?
การวางแผนบำรุงรักษาที่เป็นระบบจะช่วยให้ทีมงานสามารถดูแลอุปกรณ์ได้อย่างครบถ้วน โดยแบ่งการตรวจสอบตามความถี่การใช้งานและความสำคัญของชิ้นส่วน หากเป็นรอกไฟฟ้าชนิดโซ่ ควรเลือกตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนด้วยรอกโซ่ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน
การตรวจเช็ครายวัน (Daily Inspection)
ก่อนเริ่มงานแต่ละวัน ผู้ปฏิบัติงานควรใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 10 นาทีในการตรวจสอบเบื้องต้น เริ่มจากการทดสอบด้วยสายตา ทดสอบกดปุ่มควบคุมทุกปุ่มว่าทำงานได้ปกติ ตรวจดูสภาพโซ่หรือลวดสลิงว่ามีรอยขีดข่วน รอยสึกหรอ หรือการบิดงอหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบตะขอ และอุปกรณ์ยกว่าไม่มีรอยแตกร้าวหรือความเสียหายที่มองเห็นได้ หากเป็นงานเบา อาจเลือกใช้รอกโซ่มือหมุนที่ใช้งานง่ายและเหมาะสมกับสภาพการทำงาน
การบำรุงรักษารายเดือน (Monthly Maintenance)
การดูแลรายเดือนต้องละเอียดมากขึ้น โดยเน้นการตรวจสอบระบบเบรกว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความสะอาดและหล่อลื่นโซ่หรือลวดสลิงด้วยน้ำมันที่เหมาะสม ตรวจเช็คการทำงานของลิมิตสวิตช์ทั้งบนและล่าง รวมถึงการตรวจสอบสายไฟและจุดต่อต่างๆ ว่าไม่มีการหลุดหรือชำรุด หากต้องการเสริมความรู้ด้านความปลอดภัย สามารถเข้าร่วมคอร์สอบรมเครนเพื่อพัฒนาทักษะของทีมงาน
การบำรุงรักษาราย 3 ถึง 6 เดือน (Quarterly/Semi-Annual Maintenance)
ในช่วงเวลานี้ควรมีการตรวจสอบเชิงลึกมากขึ้น รวมถึงการวัดความหนาของโซ่หรือลวดสลิงด้วยเครื่องมือวัดที่แม่นยำ การตรวจสอบชุดเกียร์และระบบส่งกำลัง การทดสอบระบบไฟฟ้าด้วยเครื่องมือวัด และการเปลี่ยนน้ำมันในกระปุกเกียร์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต หรือ ควรศึกษาเพิ่มเติมจากแบรนด์รอกไฟฟ้าที่ดีที่สุด เพื่อความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว
การบำรุงรักษารายปี (Annual Maintenance)
การตรวจสอบประจำปีควรดำเนินการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ โดยมีการทดสอบน้ำหนักเต็มพิกัดเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน การตรวจสอบโครงสร้างทั้งหมดด้วยวิธีการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอตามอายุการใช้งาน และการออกใบรับรองการตรวจสอบตามที่กฎหมายกำหนด กรณีใช้งานรอกโซ่ ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้รอกโซ่อย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
7 เทคนิคควรรู้ เพื่อยืดอายุการใช้งานรอกไฟฟ้า
การใช้งานที่ถูกต้องร่วมกับการบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรอกไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ
1. ใช้งานรอกตามพิกัดน้ำหนัก (Rated Capacity) อย่างเคร่งครัด
การยกของที่มีน้ำหนักเกินพิกัดแม้เพียงครั้งเดียวอาจทำให้โครงสร้างภายในเสียหายอย่างถาวร ควรมีการติดป้ายแสดงน้ำหนักสูงสุดที่ชัดเจนและอบรมพนักงานให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2. หลีกเลี่ยงการกระตุกหรือการหยุดรอกแบบกะทันหัน
การควบคุมรอกควรทำอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง การกดปุ่มแบบกระชากหรือหยุดกะทันหันจะทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็วขึ้น
3. ทำความสะอาดรอกไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่สะสมจะทำให้การระบายความร้อนไม่ดีและเพิ่มการสึกหรอของชิ้นส่วน ควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
4. จัดเก็บรอกในที่ที่เหมาะสม แห้ง และไม่มีสารเคมี
ความชื้นและสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เกิดการกัดกร่อน ควรจัดเก็บในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดีและแห้ง
5. สังเกตการณ์ทำงานและเสียงที่ผิดปกติ
เสียงดังผิดปกติมักเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าของปัญหา การแก้ไขตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยป้องกันความเสียหายที่รุนแรงขึ้น
6. เลือกใช้อะไหล่และน้ำมันหล่อลื่นที่ได้มาตรฐาน
การใช้อะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจประหยัดในระยะสั้นแต่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นในระยะยาว
7. อบรมผู้ใช้งานให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
พนักงานที่มีความรู้จะสามารถใช้งานและดูแลรอกได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี
ปัญหาที่พบบ่อยและแนวทางการแก้ไขเบื้องต้น
การรู้จักปัญหาที่พบบ่อยจะช่วยให้สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
รอกไม่ทำงาน ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟและปุ่มหยุดฉุกเฉิน
เมื่อรอกไม่ทำงาน ให้ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟก่อนว่ามีไฟเข้าหรือไม่ ตรวจดูเบรกเกอร์และฟิวส์ รวมถึงตรวจสอบว่าปุ่มหยุดฉุกเฉินถูกกดอยู่หรือไม่

รอกมีเสียงดังผิดปกติ อาจเกิดจากโซ่หรือลูกปืน
เสียงดังมักเกิดจากการขาดการหล่อลื่นหรือชิ้นส่วนสึกหรอ ควรหยุดใช้งานและตรวจสอบทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
รอกเคลื่อนที่ช้ากว่าปกติ ปัญหาที่ระบบเบรกหรือมอเตอร์
การเคลื่อนที่ช้าอาจเกิดจากเบรกที่ปรับตั้งไม่ถูกต้องหรือมอเตอร์เริ่มมีปัญหา ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
รอกหยุดไม่อยู่ ระบบเบรกมีปัญหา ต้องหยุดใช้งานทันที
หากพบว่ารอกหยุดไม่อยู่หรือไหลตัวลง ให้หยุดใช้งานทันทีและติดป้ายห้ามใช้ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
สรุปบทความ
การบำรุงรักษารอกไฟฟ้า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับทุกโรงงานอุตสาหกรรม การมีแผนบำรุงรักษาที่ชัดเจนตั้งแต่การตรวจเช็ครายวันไปจนถึงการตรวจสอบรายปีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว สิ่งสำคัญคือการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรโดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลอุปกรณ์ หากพบปัญหาใดๆ ควรแก้ไขทันทีและไม่ควรเสี่ยงใช้งานต่อ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อไม่แน่ใจจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane
ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล
ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015 สิ่งแวดล้อม 14001:2015 ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018
———————————————————-
📌ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่
📞Tel : 092-874-4551
ID Line: jirayuttm
Facebook: รอกเครนลิฟต์ ttmcrane เครนและรอกไฟฟ้า ทีมตรวจซ่อมบำรุง อะไหล่ อบรมครบวงจร
Email: contact@ttmcrane.com
Website: www.ttmcrane.com













