เครนคืออะไร หลักการทํางานเครนมีอะไรบ้าง

    เครนคืออะไร

    ในโลกของอุตสาหกรรมและการก่อสร้างสมัยใหม่ เครน (Crane) ถือเป็นเครื่องจักรกลที่ขาดไม่ได้ ด้วยความสามารถในการยกและเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมหาศาล ทำให้โครงการต่าง ๆ สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การทำความเข้าใจพื้นฐานว่าเครนคืออะไร และมีหลักการทำงานเครนอย่างไร ไม่เพียงแต่เป็นความรู้สำหรับวิศวกรหรือผู้ควบคุมเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติงานทุกคนตระหนักถึงศักยภาพและความปลอดภัยในการใช้งานเครื่องจักรที่ทรงพลังชนิดนี้

    เครนคืออะไร

    เครน หรือที่เรียกในภาษาทางการว่า “ปั้นจั่น” คือเครื่องจักรกลที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ยก (Lift) และเคลื่อนย้าย (Move) วัตถุในแนวราบและแนวดิ่ง โดยอาศัยหลักการทางฟิสิกส์พื้นฐาน เช่น การใช้คานเพื่อสร้างความสมดุล การใช้ระบบรอกและสลิงเพื่อผ่อนแรงและเพิ่มกำลังในการยก ทำให้สามารถจัดการกับวัสดุที่มีน้ำหนักเกินขีดความสามารถของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย เครนจึงเป็นหัวใจสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การก่อสร้างอาคารสูง การผลิตในโรงงาน ไปจนถึงการขนถ่ายสินค้าในท่าเรือ

    กลไกการทำงานของเครน

    เบื้องหลังการทำงานที่ทรงพลังของเครน ประกอบด้วยกลไกหลักหลายส่วนที่ทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย

    ระบบการยก (Hoisting Mechanism)

    นี่คือหัวใจของ กลไกทำงานของเครน ซึ่งทำหน้าที่หลักในการยกวัตถุขึ้นและลงในแนวดิ่ง ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหรือไฮดรอลิกที่ส่งกำลังไปยังชุดเกียร์ เพื่อหมุน “ดรัม” หรือแกนม้วนสลิง จากนั้นลวดสลิงหรือโซ่ที่พันอยู่บนดรัมจะถูกดึงขึ้นหรือปล่อยลง ทำให้ตะขอ (Hook) ที่ปลายสลิงสามารถยกวัตถุขึ้น-ลงได้ตามต้องการ

    ระบบการเคลื่อนที่ (Traveling Mechanism)

    กลไกนี้ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายตัวเครนหรือชุดยกไปในแนวราบ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะหลัก คือ

    • การเคลื่อนที่ของตัวเครนทั้งชุด : เช่น ในเครนเหนือศีรษะ (Overhead Crane) ตัวรอกจะวิ่งไปตามคาน และตัวคานจะวิ่งไปตามรางที่ติดตั้งไว้กับโครงสร้างอาคาร 
    • การเคลื่อนที่ของยานพาหนะ : เช่น ในเครนเคลื่อนที่ (Mobile Crane) ที่ใช้ล้อหรือตีนตะขาบในการขับเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

    กลไกหมุน (Slewing Mechanism)

    สำหรับเครนบางประเภท เช่น เครนหอสูงหรือเครนเคลื่อนที่ กลไกการหมุนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเปลี่ยนทิศทางของแขนบูม โดยมีมอเตอร์และชุดเกียร์ขับเคลื่อนให้โครงสร้างส่วนบนของเครน (Superstructure) หมุนรอบแกนในแนวราบ 360 องศา ช่วยให้สามารถรับและวางวัตถุได้ในรัศมีการทำงานที่กว้างขวาง

    กลไกปรับความยาวแขนบูม (Luffing Mechanism)

    กลไกนี้ทำหน้าที่ปรับมุมองศาหรือความยาวของแขนบูม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระยะเอื้อม (Radius) ในการยกวัตถุ ในเครนหอสูงมักจะเป็นการปรับมุมเงยของแขนบูม (Luffing) ส่วนในเครนเคลื่อนที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการยืด-หดแขนบูมแบบปล้อง (Telescoping) เพื่อเพิ่มหรือลดระยะการทำงาน

    ประเภทของเครนและการใช้งาน

    เครนมีหลากหลายประเภท ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลักษณะงานที่เฉพาะเจาะจง

    Gantry Crane

    เครนหอสูง (Tower Crane)

    เป็นเครนที่ติดตั้งยึดติดกับพื้นดินหรือฐานรากของอาคาร มีลักษณะสูงเด่น มองเห็นได้ชัดเจนในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการยกวัสดุก่อสร้างขึ้นไปบนอาคารสูง มีความสามารถในการยกที่สูงและมีรัศมีการทำงานที่กว้างมาก

    เครนเหนือศีรษะ (Overhead Crane)

    เครนชนิดนี้ติดตั้งอยู่บนรางวิ่งบริเวณใต้หลังคาของอาคาร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า เพื่อยกและเคลื่อนย้ายวัตถุดิบหรือสินค้าสำเร็จรูปไปตามสายการผลิต การปฏิบัติตามคู่มือการใช้เครนในโรงงานจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

    เครนเคลื่อนที่ได้ (Mobile Crane)

    คือเครนที่ติดตั้งอยู่บนยานพาหนะที่มีล้อหรือตีนตะขาบ ทำให้มีความคล่องตัวสูง สามารถเดินทางไปยังไซต์งานต่าง ๆ ได้สะดวก มีหลายประเภทย่อย เช่น เครนติดรถบรรทุก (Truck Crane) หรือเครนสำหรับพื้นที่ขรุขระ (Rough Terrain Crane)

    ความปลอดภัยและข้อควรปฏิบัติในการใช้งานเครน

    การทำความเข้าใจหลักการทำงานเครนนั้นไม่สมบูรณ์ หากขาดความตระหนักด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

    ตรวจสอบระบบและอุปกรณ์ก่อนใช้งาน

    ผู้ควบคุมต้องตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครนทุกครั้งก่อนเริ่มงาน ตั้งแต่ระบบเบรก สภาพลวดสลิง ตะขอ ไปจนถึงระบบหยุดฉุกเฉิน การปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย 5 ข้อ เป็นพื้นฐานที่ช่วยสร้างความปลอดภัยในทุกวัน

    ใช้งานตามพิกัดน้ำหนักที่กำหนด

    การยกน้ำหนักเกินกว่าพิกัดที่ระบุไว้ในตารางยก (Load Chart) คือสาเหตุหลักของอันตรายจากการใช้เครนที่รุนแรงที่สุด ผู้ใช้งานต้องเข้าใจและปฏิบัติตามตารางยกอย่างเคร่งครัดเสมอ

    หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่ทำงาน

    สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยโดยการกั้นพื้นที่ปฏิบัติงานให้ชัดเจน ใช้การให้สัญญาณมือเครนที่เป็นมาตรฐานสากลในการสื่อสาร และห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด

    สรุปบทความ

    เครนเป็นเครื่องจักรที่ซับซ้อนและทรงพลัง การทำงานของมันเกิดจากการประสานกันของกลไกสำคัญ 4 ส่วน คือ การยก การเคลื่อนที่ การหมุน และการปรับแขนบูม การเข้าใจหลักการทำงานเครนเหล่านี้ เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การจะมั่นใจได้ว่ากลไกทั้งหมดจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์นั้น ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการออกแบบ การผลิต และการบำรุงรักษาด้วย

    ที่ TTM CRANE เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านรอกและเครนอุตสาหกรรมครบวงจร เราไม่เพียงแต่ผลิตและติดตั้งเครนคุณภาพสูงที่ทุกกลไกถูกสร้างตามมาตรฐานวิศวกรรมที่เข้มงวด แต่เรายังมีบริการตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยทีมช่างมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าเครนของคุณจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน

    📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane
    ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล
    ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015 สิ่งแวดล้อม 14001:2015 ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018
    ———————————————————-
    📌ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่ 
    📞Tel : 092-874-4551
    ID Line​: jirayuttm
    Facebook: รอกเครนลิฟต์ ttmcrane เครนและรอกไฟฟ้า ทีมตรวจซ่อมบำรุง อะไหล่ อบรมครบวงจร
    Email: contact@ttmcrane.com
    🌐 Website :www.ttmcrane.com

    Similar Posts