รอกไฟฟ้าเสีย? อาการยอดฮิต พร้อมวิธีตรวจสอบและแก้ไขเบื้องต้น

    รอกไฟฟ้าเสีย เป็นปัญหาที่พบบ่อยในโรงงานอุตสาหกรรมไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อาการ รอกไฟฟ้าค้าง ถือเป็นปัญหายอดฮิตที่หากไม่แก้ไขอย่างรวดเร็วอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง

    การเข้าใจอาการเสียพื้นฐานจะช่วยให้ระบุปัญหาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ก่อนติดต่อช่างเทคนิค บทความนี้รวบรวมอาการยอดฮิตพร้อมแนวทางแก้ไขเบื้องต้นที่ผู้ใช้งานทำได้ด้วยตนเอง

    รอกไฟฟ้าไม่ทำงานเลย กดรีโมทแล้วเงียบ เกิดจากอะไรได้บ้าง?

    เมื่อกดปุ่มรีโมทแล้ว รอกไฟฟ้าเสีย โดยไม่มีเสียงหรือการเคลื่อนไหวใดๆ สาเหตุอาจมาจากปัญหาในระบบไฟฟ้าหรือชุดควบคุม หากพบสายไฟขาดหรือชำรุด ควรใช้อะไหล่คุณภาพจากอะไหล่รอกและเครน เพื่อให้รอกกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย การวินิจฉัยที่ถูกต้องช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง

     

    รอกไฟฟ้าเสีย

     

    1. ระบบไฟฟ้ามีปัญหา (ไม่มีไฟเข้ารอก)

    ปัญหาระบบไฟฟ้าเป็นสาเหตุแรกที่ควรตรวจสอบ วิธีตรวจสอบคือเช็คเบรกเกอร์หลักว่าเปิดอยู่หรือไม่ ตรวจสอบสายไฟที่เชื่อมต่อกับรอกว่าชำรุดหรือหลวม และดูปลั๊กเชื่อมต่อว่าแน่นหนาไม่มีรอยไหม้ หากพบปัญหาควรติดต่อช่างไฟฟ้า

     2. ปุ่มหยุดฉุกเฉิน (Emergency Stop) ถูกกดค้างไว้

    ปุ่มหยุดฉุกเฉินเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัย เมื่อถูกกดระบบจะหยุดทั้งหมด ตรวจสอบโดยมองหาปุ่มสีแดงที่ยื่นออกหรือบิดค้าง หากพบให้ปลดล็อคโดยดึงออกหรือบิดไปทางขวา แต่ต้องตรวจสอบความปลอดภัยก่อน

     3. ชุดรีโมทควบคุม (คอนโทรล) เสียหาย

    รีโมทควบคุมใช้งานบ่อยจึงเสียหายได้ง่าย ตรวจสอบสายคอนโทรลว่าตัดหรือบิดงอ ลองกดปุ่มดูว่าตอบสนอง หากมีรีโมทสำรองให้ลองสลับ ถ้ารอกทำงานปกติแสดงว่าปัญหาอยู่ที่รีโมทเดิม

     อาการยอดฮิต: รอกไฟฟ้าค้าง ไม่ขึ้น ไม่ลง

    อาการ รอกไฟฟ้าค้าง เป็นปัญหาอันตรายเนื่องจากอาจมีของหนักแขวนค้างในอากาศ ปัญหานี้พบบ่อยในโรงงานอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะช่วงใช้งานหนัก ผู้ใช้งานควรตรวจสอบอุปกรณ์เสริม เช่น รอกโซ่ไฟฟ้า ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่ การเข้าใจสาเหตุและวิธีแก้ไขเบื้องต้นช่วยจัดการสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย

     1. สวิตช์ป้องกันน้ำหนักเกิน (Overload Limit Switch) ทำงาน

    ระบบ Overload Limit Switch ป้องกันการยกของหนักเกินพิกัด เมื่อทำงานรอกจะหยุดทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย วิธีแก้ไขคือนำน้ำหนักส่วนเกินออกก่อน จากนั้นตรวจสอบการตั้งค่า Limit Switch ว่าเหมาะสม หากเกิดซ้ำอาจมีการใช้งานผิดพิกัด

     2. ระบบเบรกมีปัญหา (Brake Failure)

    ระบบเบรกยึดของให้อยู่ในตำแหน่งเมื่อหยุดทำงาน สาเหตุคือผ้าเบรกสึกหรือเบรกจับค้างเนื่องจากขาดการหล่อลื่น วิธีแก้ไขที่ปลอดภัยคือหยุดใช้งานทันทีและเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง

     3. ปัญหาที่ชุดสวิตช์แม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Contactor)

    แมกเนติกคอนแทคเตอร์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าไปมอเตอร์ เมื่อหน้าสัมผัสสกปรกหรือละลาย การส่งกำลังไฟจะไม่สมบูรณ์ อาการคือมีเสียงฟ้าร้อง ประกายไฟ หรือกลิ่นไหม้ ต้องให้ช่างไฟฟ้าแก้ไขเนื่องจากเกี่ยวข้องกับไฟแรงสูง

     เจาะลึกอาการเสียอื่นๆ และแนวทางการแก้ไข

    นอกจากอาการหลักแล้ว ยังมีอาการผิดปกติอื่นๆ ที่ผู้ใช้งานควรเข้าใจ การสังเกตอาการเหล่านี้ในระยะเริ่มต้นจะป้องกันปัญหาใหญ่และประหยัดค่าใช้จ่าย หากเป็นงานเบาหรือใช้งานเฉพาะกิจ อาจพิจารณาใช้รอกโซ่มือหมุน ซึ่งดูแลง่ายกว่าและไม่ต้องพึ่งระบบไฟฟ้า

     รอกมีเสียงดังผิดปกติขณะทำงาน

    เสียงดังผิดปกติเป็นสัญญาณเตือนสำคัญ สาเหตุคือลูกปืนแตก ชุดเกียร์เสียหาย หรือโซ่สลิงขาดการหล่อลื่น ควรหยุดใช้งานทันทีและตรวจสอบการหล่อลื่น

     รอกสั่นมากกว่าปกติ

    การสั่นผิดปกติมาจากการติดตั้งไม่ได้ศูนย์ น็อตยึดหลวม หรือฐานรองรับไม่แข็งแรง ตรวจสอบความแน่นของน็อตและระดับการติดตั้ง

     มอเตอร์ร้อนจัดหรือมีกลิ่นไหม้

    มอเตอร์ร้อนจัดเป็นสัญญาณอันตราย สาเหตุคือใช้งานหนักเกินไป ไฟตกไฟเกิน หรือระบบระบายความร้อนอุดตัน ต้องหยุดใช้งานให้มอเตอร์พักและทำความสะอาดระบบระบายอากาศ

     โซ่/สลิงขัด หรือตกจากร่อง

    ปัญหานี้เกิดจากใช้งานในมุมผิด โซ่สลิงบิด หรือร่องรอกสึกหรอ ห้ามบังคับใช้งานต่อ ต้องตรวจสอบสภาพและซ่อมแซมโดยช่างเทคนิค

     รอกยกของขึ้น แต่เบรกไม่อยู่ (ของค่อยๆ ร่วงลง)

    นี่เป็นอาการอันตรายสูงสุด เกิดจากผ้าเบรกหมดสภาพ สปริงเบรกแตก หรือน้ำมันรั่วเข้าระบบเบรก ต้องหยุดใช้งานทันที กั้นพื้นที่อันตราย และเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญ

    “ป้องกันดีกว่าแก้” วิธีป้องกันไม่ให้รอกไฟฟ้าเสียบ่อย

    การป้องกันปัญหาก่อนเกิดขึ้นเป็นหลักการสำคัญในการจัดการรอกไฟฟ้า ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมไทยที่แข่งขันสูง การหยุดชะงักจากรอกเสียส่งผลกระทบต่อต้นทุนและกำหนดส่งมอบ การลงทุนในการป้องกันจึงคุ้มค่ากว่าการรอให้เสียแล้วแก้

    การป้องกันที่มีประสิทธิภาพควรมีแนวทางดังนี้

    1. การใช้งานอย่างถูกวิธีตามคู่มือ ศึกษาคู่มือการใช้งานและจัดอบรมพนักงานเกี่ยวกับการใช้รอกถูกต้อง รวมถึงพิกัดน้ำหนัก มุมการยก ความเร็วที่เหมาะสม การใช้งานถูกต้องช่วยลดการสึกหรอและยืดอายุรอก
    2. ความสำคัญของการบำรุงรักษาตามระยะ จัดทำตารางบำรุงรักษาตามคำแนะนำผู้ผลิต เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น ตรวจสอบระบบเบรก ทำความสะอาดชิ้นส่วน และทดสอบระบบความปลอดภัย การบำรุงรักษาเชิงป้องกันช่วยตรวจพบปัญหาก่อนกลายเป็นปัญหาใหญ่
    3. การตรวจสอบสภาพรอกรายวันก่อนใช้งาน ตรวจสอบสภาพภายนอกของรอก ดูโซ่สลิงว่าตรงไม่ขาด ทดสอบปุ่มรีโมท ฟังเสียงมอเตอร์ และตรวจระบบเบรก การตรวจสอบใช้เวลาไม่กี่นาทีแต่ป้องกันอุบัติเหตุและปัญหาใหญ่ได้

    สรุปบทความ

    การเข้าใจอาการ รอกไฟฟ้าเสียและ รอกไฟฟ้าค้างพร้อมวิธีตรวจสอบเบื้องต้นเป็นความรู้สำคัญสำหรับผู้ใช้งาน การสังเกตอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้นและแก้ไขถูกต้องช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดค่าซ่อมบำรุง

    สิ่งสำคัญคือการรู้จักข้อจำกัดและไม่พยายามซ่อมปัญหาซับซ้อนด้วยตนเอง การติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเมื่อเกินความสามารถจะทำให้การซ่อมแซมปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การลงทุนในการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและอบรมพนักงานเป็นกลยุทธ์คุ้มค่าที่ช่วยให้ระบบรอกไฟฟ้าทำงานได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย หากต้องเลือกซื้อใหม่ ควรศึกษาแบรนด์รอกไฟฟ้าที่ดีที่สุด เพื่อความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

    📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015  สิ่งแวดล้อม 14001:2015  ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018 

    ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่
    📞 Tel : 092-874-4551
    ID Line​:  jirayuttm
    Facebook: https://www.facebook.com/ttmcrane
    Email: contact@ttmcrane.com
    Website: http://www.ttmcrane.com

    Similar Posts