เจาะลึกหลักการทำงานของรอก (Hoist) ประเภท และวิธีคำนวณที่ครบที่สุด

ในยุคที่อุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด โรงงานและคลังสินค้าต่างพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการยกของหนักมากขึ้น หลักการทำงานของรอกโดยเฉพาะรอกยกของไฟฟ้าจึงเป็นความรู้พื้นฐานที่วิศวกรและผู้ปฏิบัติงานต้องเข้าใจ เพื่อเลือกใช้และบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลต่อความปลอดภัยในการทำงานและประสิทธิภาพการผลิตโดยรวม

เปิดพื้นฐาน หลักการทำงานของรอก (Principle of Hoist)
หลักการทำงานของรอกอาศัยกฎของกลศาสตร์ที่เรียกว่า “Simple Machine” หรือเครื่องกลง่าย โดยใช้ลูกรอกและสายหรือโซ่เป็นตัวถ่ายแรงเพื่อลดแรงที่ต้องใช้ในการยกของหนัก ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้หลักการของการได้เปรียบเชิงกลอย่างชาญฉลาด
นับตั้งแต่อารยธรรมโบราณ มนุษย์ได้ค้นพบหลักการนี้และนำมาพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนในปัจจุบัน การทำงานของรอกเป็นการใช้ประโยชน์จากหลักการฟิสิกส์พื้นฐาน คือ การอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งหมายความว่าพลังงานที่ใส่เข้าไปจะเท่ากับพลังงานที่ได้ออกมา แต่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ ในกรณีของรอก เราเปลี่ยนแรงมากระยะสั้นให้เป็นแรงน้อยระยะยาว หรือเปลี่ยนทิศทางของแรงให้เหมาะสมกับการใช้งาน
รอกเดี่ยวตายตัว (Fixed Pulley) เปลี่ยนทิศทางแรง แต่ไม่ผ่อนแรง
รอกเดี่ยวตายตัวคือรอกที่ยึดติดกับจุดหนึ่งอย่างแน่นหนา ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ลักษณะการทำงานของรอกประเภทนี้จะช่วยเปลี่ยนทิศทางของแรงเท่านั้น แต่จะไม่ช่วยลดปริมาณแรงที่ต้องใช้ในการยก หากต้องการยกของหนัก 100 กิโลกรัม ผู้ใช้งานจะต้องใช้แรง 100 กิโลกรัมเช่นกัน การใช้งานรอกเดี่ยวตายตัวมีข้อดีสำคัญคือสามารถใช้น้ำหนักตัวและแรงโน้มถ่วงมาช่วยในการดึง ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องออกแรงยกของขึ้น แต่เปลี่ยนเป็นการดึงลง ซึ่งเป็นท่าทางที่ธรรมชาติและใช้แรงได้มีประสิทธิภาพกว่า นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถยืนอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน ไม่ต้องไปอยู่ใต้ของที่ยก
รอกเดี่ยวเคลื่อนที่ (Movable Pulley) ช่วยผ่อนแรงครึ่งหนึ่ง
รอกเดี่ยวเคลื่อนที่เป็นรอกที่ติดกับวัตถุที่ต้องการยก สามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงได้ตามการยกของ หลักการทำงานของรอกประเภทนี้จะแบ่งน้ำหนักออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน โดยส่วนหนึ่งถูกรับโดยจุดยึดบน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นแรงที่ผู้ใช้งานต้องดึง
รอกพวง (Block Pulley) เพิ่มพลังการผ่อนแรงด้วยรอกหลายตัว
รอกพวงเป็นระบบที่ประกอบด้วยรอกหลายตัวที่ทำงานร่วมกัน โดยมีทั้งรอกตายตัวและรอกเคลื่อนที่ ยิ่งจำนวนรอกมากเท่าไหร่ การได้เปรียบเชิงกลก็จะมากขึ้นเท่านั้น หลักการคำนวณจะใช้จำนวนเส้นเชือกที่รับน้ำหนักเป็นตัวหาร
การได้เปรียบเชิงกล (Mechanical Advantage) คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญกับรอก
การได้เปรียบเชิงกลคืออัตราส่วนระหว่างแรงที่ได้ออกมากับแรงที่ใส่เข้าไป ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่ารอกสามารถช่วยประหยัดแรงได้มากน้อยเพียงใด หลักการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกรอกให้เหมาะสมกับงาน เพราะจะส่งผลต่อความเหนื่อยล้าของผู้ปฏิบัติงาน ความเร็วในการทำงาน และความปลอดภัยโดยรวม
รู้จักประเภทของรอกที่นิยมใช้งานในอุตสาหกรรม
ในภาคอุตสาหกรรมไทยปัจจุบัน รอกแต่ละประเภทได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะทาง ทั้งในด้านกำลังการยก ความเร็ว ความแม่นยำ และความปลอดภัย การเข้าใจลักษณะการทำงานของรอกแต่ละประเภทจะช่วยให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม ประหยัดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
รอกโซ่มือสาว (Chain Block)
รอกโซ่มือสาวเป็นรอกที่ใช้แรงคนในการปฏิบัติงาน มีความนิยมสูงในโรงงานขนาดเล็กและกลาง เนื่องจากไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าและสามารถใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ รอกประเภทนี้จึงเป็นทางเลือกแรกสำหรับงานที่ต้องการความเชื่อถือได้สูง

หลักการทำงานและส่วนประกอบ
หลักการทำงานของรอกโซ่มือสาวอาศัยระบบเฟืองทดเร็วภายในตัวรอก เมื่อดึงโซ่มือในทิศทางหนึ่ง เฟืองจะหมุนทำให้ล้อโซ่หลักหมุนตาม และยกของขึ้น ส่วนประกอบสำคัญประกอบด้วยตัวรอกหลัก โซ่มือ โซ่ยก ระบบเฟือง และตะขอสำหรับแขวนรอกและยึดของ
ระบบเฟืองภายในจะมีการออกแบบให้มีอัตราทดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้การได้เปรียบเชิงกลที่ดี ขณะเดียวกันก็รักษาขนาดและน้ำหนักของรอกให้เหมาะสม กลไกเบรกในรอกโซ่มือสาวทำงานแบบอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการดึงโซ่มือ ระบบเบรกจะล็อกไม่ให้โซ่ยกเคลื่อนที่
ข้อดีและข้อจำกัด
ข้อดีของรอกโซ่มือสาวคือการใช้งานง่าย ประหยัดพลังงาน ราคาไม่แพง และสามารถควบคุมความเร็วได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าหรือแหล่งพลังงานภายนอก ทำให้สามารถใช้งานได้ทุกสถานการณ์ การบำรุงรักษาไม่ซับซ้อน และมีอะไหล่ให้เลือกมากมาย
รอกโยกโซ่ (Lever Block / Lever Hoist)
รอกโยกโซ่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและการจัดตำแหน่งที่ละเอียด มักใช้งานในการติดตั้งเครื่องจักร การซ่อมบำรุง และงานที่มีพื้นที่จำกัด ความพิเศษของรอกประเภทนี้คือสามารถใช้งานในพื้นที่แคบและสามารถปรับตำแหน่งได้อย่างละเอียดมาก
หลักการทำงานและส่วนประกอบ
หลักการทำงานใช้คันโยกเป็นตัวสร้างแรง โดยการโยกคันไปมาจะทำให้โซ่เคลื่อนที่ขึ้นลง ระบบเฟืองภายในจะทำหน้าที่ทดแรงและควบคุมทิศทาง ส่วนประกอบหลักคือคันโยก ตัวรอก ระบบเฟือง โซ่ยก และกลไกล็อกความปลอดภัย
ข้อดีและข้อจำกัด
ข้อดีคือการควบคุมที่แม่นยำมาก สามารถปรับตำแหน่งทีละน้อย ใช้งานได้ในพื้นที่แคบ และมีระบบล็อกป้องกันการตก ข้อจำกัดคือความเร็วในการทำงานช้ามาก เหมาะกับการยกระยะสั้น และต้องใช้แรงในการโยกคันต่อเนื่อง
รอกไฟฟ้า (Electric Hoist)

รอกไฟฟ้าเป็นทางเลือกยอดนิยมในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากสะดวก เร็ว และทำงานต่อเนื่องได้
รอกโซ่ไฟฟ้า (Electric Chain Hoist)
รอกโซ่ไฟฟ้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนระบบเฟือง เพื่อยกโซ่ขึ้นลง มีจุดเด่นในด้านความแข็งแรงและทนทาน เหมาะสำหรับการยกของหนักในระยะสูงปานกลาง ระบบควบคุมสามารถทำได้ทั้งแบบสายไฟและแบบรีโมทไร้สาย
รอกสลิงไฟฟ้า (Electric Wire Rope Hoist)
รอกสลิงไฟฟ้าใช้สายสลิงเหล็กแทนโซ่ ทำให้ยกได้เร็วกว่าและเหมาะกับการยกในระยะสูง สายสลิงมีความยืดหยุ่นมากกว่าโซ่ จึงให้ความรู้สึกนุ่มนวลในการใช้งาน และสามารถใช้กับเครนแขนหรือเครนเหนือศีรษะได้ดี
รอกลม (Air Hoist)
รอกลมเป็นทางเลือกพิเศษสำหรับงานที่มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยสูง เช่น บริเวณที่มีไอระเบิดหรือความชื้นสูง
หลักการทำงานและข้อดีในงานเฉพาะทาง
หลักการทำงานใช้อากาศอัดเป็นพลังงานขับเคลื่อนมอเตอร์ลม ข้อดีคือความปลอดภัยสูงจากไฟฟ้า สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมเปียกชื้นหรือมีไอระเบิด ควบคุมความเร็วและแรงบิดได้นุ่มนวล และไม่มีปัญหาความร้อนจากการทำงานต่อเนื่อง
วิธีคำนวณแรงที่ใช้ในการยกของด้วยรอกอย่างง่าย
การคำนวณแรงในการใช้รอกเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เลือกรอกได้เหมาะสมกับงาน และประเมินความปลอดภัยในการใช้งาน การเข้าใจสูตรเบื้องต้นจะช่วยให้วางแผนการทำงานได้ดีขึ้น
สูตรการคำนวณรอกเบื้องต้น
สูตรพื้นฐานสำหรับรอกเดี่ยวเคลื่อนที่คือ แรงที่ต้องใช้ = น้ำหนักของ ÷ 2 สำหรับรอกพวงจะใช้สูตร แรงที่ต้องใช้ = น้ำหนักของ ÷ จำนวนเส้นโซ่ที่รับน้ำหนัก ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของรอกด้วย ซึ่งในการใช้งานจริงจะมีการสูญเสียจากแรงเสียดทาน
ตัวอย่าง การคำนวณแรงดึงของรอกพวงแบบต่างๆ
สมมติต้องการยกของหนัก 600 กิโลกรัม หากใช้รอกพวงที่มี 3 เส้นโซ่รับน้ำหนัก แรงที่ต้องใช้จะเท่ากับ 600 ÷ 3 = 200 กิโลกรัม แต่เมื่อคำนึงถึงประสิทธิภาพรอกที่ประมาณ 80% แรงที่ใช้จริงจะเป็น 200 ÷ 0.8 = 250 กิโลกรัม
การคำนวณนี้จะช่วยให้เลือกรอกและวางแผนจำนวนคนงานได้เหมาะสม ตัวอย่างอื่นๆ เช่น การยกของ 1,000 กิโลกรัม ด้วยรอกพวง 5 เส้นโซ่ จะใช้แรง 1,000 ÷ 5 = 200 กิโลกรัม แต่ต้องคำนึงถึงแรงเสียดทานและประสิทธิภาพของรอกด้วยเสมอ
การบำรุงรักษารอกเพื่อยืดอายุการใช้งาน
การบำรุงรักษารอกอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพให้คงเดิม การตรวจสอบส่วนประกอบอย่างสม่ำเสมอ การหล่อลื่นจุดเสียดทาน การทำความสะอาดและการจัดเก็บที่เหมาะสม จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและเพิ่มความปลอดภัย

การตรวจสอบโซ่หรือสลิงเป็นประจำเพื่อหาร่องรอยการสึกหรอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการแตกหักของโซ่หรือสลิงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ การตรวจสอบระบบเบรกและกลไกความปลอดภัย การทำความสะอาดจากฝุ่นและคราบน้ำมัน และการหล่อลื่นตามคำแนะนำของผู้ผลิต จะช่วยให้รอกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน
การบำรุงรักษาที่ถูกต้องยังรวมถึงการจัดเก็บรอกในที่แห้ง ป้องกันการเกิดสนิม การตรวจสอบอะไหล่สึกหรอเป็นระยะ และการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่หมดอายุตามกำหนด การลงทุนในการบำรุงรักษาที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและรับประกันความปลอดภัยในการใช้งาน
สรุปบทความ
หลักการทำงานของรอกเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนในแวดวงอุตสาหกรรมควรเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นหลักการใช้ประโยชน์จากการได้เปรียบเชิงกล การเลือกประเภทรอกให้เหมาะกับงาน การคำนวณแรงที่ใช้ และการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ความรู้เหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังเป็นการลงทุนในความปลอดภัยของพนักงานและความสำเร็จของธุรกิจ ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การเข้าใจหลักการพื้นฐานจะช่วยให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในรอกไฟฟ้าที่มีคุณภาพและการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมจะเป็นการประกันความสำเร็จในระยะยาวสำหรับทุกธุรกิจ
สำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้รอกหรือต้องการบริการด้านรอกและเครนอุตสาหกรรม ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละองค์กร
📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane
ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล
ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015 สิ่งแวดล้อม 14001:2015 ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018
———————————————————-
📌ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่
📞Tel : 092-874-4551
ID Line: jirayuttm
Facebook: รอกเครนลิฟต์ ttmcrane เครนและรอกไฟฟ้า ทีมตรวจซ่อมบำรุง อะไหล่ อบรมครบวงจร
Email: contact@ttmcrane.com
Website: www.ttmcrane.com














