รอกกับเครนต่างกันอย่างไร ทำความเข้าใจก่อนเลือกใช้งาน

การเลือกใช้อุปกรณ์ยกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หลายคนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรอก กับ เครน ต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้อุปกรณ์ชนิดไหนให้เหมาะสมกับลักษณะงาน บทความนี้จะพาทุกท่านสำรวจความแตกต่างหลักของทั้งสองอุปกรณ์ พร้อมแนวทางการเลือกใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รอกคืออะไร
รอกเป็นอุปกรณ์ยกพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นลงในแนวดิ่ง โดยใช้หลักการของล้อและเชือกหรือโซ่ในการถ่ายทอดแรง ตัวรอกจะประกอบไปพลังงานขับเคลื่อน ระบบเกียร์ลด เบรกสำหรับหยุดการทำงาน และตะขอสำหรับแขวนสิ่งของ รอกไฟฟ้า มีข้อดีคือใช้งานง่าย บำรุงรักษาไม่ซับซ้อน และราคาไม่สูงมาก
สำหรับนิยามในประกาศกรมสวสัดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการ การใช้เชือก และรอก พ.ศ. 2553 นิยามรอกไว้ดังนี้ “รอก หมายถึง อุปกรณ์ผ่อนแรงมีลักษณะคล้ายล้อ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ โดยร้อยไว้กับเชือก โซ่ หรือ ลวดสลิง”
การทำงานของรอกอาศัยกลไกการหมุนของล้อเพื่อดึงเชือกหรือโซ่ ทำให้สามารถยกของหนักได้โดยใช้แรงที่น้อยกว่าน้ำหนักจริงของวัตถุ อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการยกสิ่งของในจุดเดียวโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งอื่น
ประเภทของรอก
รอกสามารถแบ่งตามแหล่งพลังงานและลักษณะของตัวกลางในการยกได้หลายรูปแบบ แต่ที่นิยมใช้กันทั่วไปในภาคอุตสาหกรรม เช่น
- รอกมือ เป็นรอกที่อาศัยกำลังคนในการชักรอกเพื่อยกวัตถุ เช่น รอกโซ่มือสาว เหมาะสำหรับงานที่ไม่หนักมาก ไม่ต้องการความเร็ว และในพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งพลังงานไฟฟ้า การเรียนรู้ การใช้รอกโซ่อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- รอกไฟฟ้า เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนมอเตอร์ ทำให้สามารถยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้อย่างรวดเร็วและทุ่นแรงได้อย่างมหาศาล
- รอกลม ใช้ระบบแรงดันลมในการทำงาน เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟ เช่น ในอุตสาหกรรมเคมีหรือโรงพ่นสี มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบรอกโซ่และรอกสลิง
เครนคืออะไร
เครนเป็นเครื่องจักรยกที่มีความซับซ้อนกว่ารอก สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน ระบบเครนจะประกอบไปโครงสร้างหลัก ระบบขับเคลื่อน รอกยก และระบบควบคุม ความสามารถในการเคลื่อนย้ายแบบหลายมิตินี้ทำให้เครนเหมาะสำหรับงานที่ต้องการยกและวางสิ่งของในตำแหน่งต่าง ๆ ภายในพื้นที่ทำงาน
กฏกระทรวงว่าด้วยมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั่นจั่น และหม้อน้ำ ได้นิยามไว้ว่า ปั้นจั่น หรือเครน คือ “เครื่องจักรที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่ง และเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่านั้นในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ และให้หมายความรวมถึงเครื่องจักรประเภทรอกที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่งด้วย”
ประเภทของเครน
เครนมีหลายประเภทและถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างกัน ประเภทที่พบเห็นบ่อยในโรงงานและอุตสาหกรรม ได้แก่
- เครนเหนือศีรษะ (Overhead Crane) เป็นเครนที่ติดตั้งอยู่บนรางวิ่งซึ่งยึดติดกับโครงสร้างของอาคาร สามารถเคลื่อนที่ครอบคลุมพื้นที่สี่เหลี่ยมของโรงงานหรือคลังสินค้าได้อย่างอิสระ การทำความเข้าใจหลักการ การใช้เครนเหนือศีรษะจะช่วยให้การขนย้ายวัตถุขนาดใหญ่ในโรงงานทำได้อย่างคล่องตัว
- เครนขาสูง หรือ เครนสนาม (Gantry Crane) มีลักษณะคล้ายเครนเหนือศีรษะ แต่มีขาของตัวเองและวิ่งบนรางที่ติดตั้งบนพื้น เหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้งหรือในพื้นที่ที่โครงสร้างอาคารไม่สามารถรับน้ำหนักเครนได้
- เครนแขนหมุน (Jib Crane) มีลักษณะเป็นแขนยื่นออกมาจากเสา สามารถหมุนเพื่อยกและย้ายวัตถุได้ในรัศมีการทำงานของแขน เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือใช้ยกของป้อนเข้าเครื่องจักรเฉพาะจุด
ทำไมคนถึงสับสนระหว่างรอกและเครน
ความสับสนที่ว่า รอก กับ เครน ต่างกันอย่างไร เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ประการแรกคือทั้งสองอย่างทำหน้าที่ “ยกของ” เหมือนกัน และประการที่สองคือ รอกเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครนเสมอ ทำให้ในบางครั้งคนอาจเรียกเหมารวมระบบยกทั้งหมดว่าเครน หรือเมื่อเห็นรอกไฟฟ้าที่วิ่งบนคานเดี่ยว ก็อาจเรียกว่าเครนขนาดเล็กได้เช่นกัน
รอกกับเครนต่างกันอย่างไร
- โครงสร้างและความซับซ้อน รอกมีโครงสร้างเรียบง่าย ประกอบไปมอเตอร์และระบบดึง ขณะที่เครนมีโครงสร้างซับซ้อนกว่า ต้องมีคาน รางวิ่ง และระบบควบคุมหลายชุด
- พื้นที่ครอบคลุม รอกเหมาะกับการยกของเฉพาะจุด แต่เครนสามารถครอบคลุมพื้นที่ทำงานที่กว้างขวางกว่ามาก
- การใช้งาน รอกมักใช้สำหรับงานยกที่ไม่ซับซ้อน ส่วนเครนใช้สำหรับงานที่ต้องการเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากไปทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติงาน
การเลือกใช้รอกหรือเครนให้เหมาะสมกับงาน
การตัดสินใจเลือกใช้รอกหรือเครนขึ้นอยู่ปัจจัยหลายประการที่ต้องวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ดังนี้
พิจารณาน้ำหนักและขนาดของสิ่งของ
น้ำหนักของสิ่งของที่ต้องยกเป็นปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณา หากต้องยกของที่มีน้ำหนักไม่เกิน 5 ตัน และไม่ต้องการเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งอื่น รอกจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ประหยัดงบประมาณและใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง
สำหรับงานที่ต้องยกของหนักเกิน 10 ตัน หรือต้องการเคลื่อนย้ายไปหลายตำแหน่ง เครนจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า แม้ต้นทุนเริ่มต้นจะสูงกว่า แต่จะประหยัดเวลาและแรงงานในระยะยาว
ประเมินพื้นที่การทำงาน

ลักษณะพื้นที่การทำงานเป็นอีกปัจจัยสำคัญ หากเป็นพื้นที่แคบหรือมีข้อจำกัดด้านความสูง รอกจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะใช้พื้นที่น้อยและไม่ต้องการโครงสร้างเพิ่มเติมมากนัก โรงงานที่มีพื้นที่กว้างและต้องการเคลื่อนย้ายสิ่งของไปหลายจุด ระบบเครนจะตอบโจทย์มากกว่า
งบประมาณและความคุ้มค่าในการลงทุน
การคำนวณต้นทุนรวมต้องพิจารณาทั้งราคาซื้อ ค่าติดตั้ง และค่าบำรุงรักษา รอกมีราคาถูกกว่าและติดตั้งง่ายกว่า เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรืองานที่ใช้ไม่บ่อย ค่าบำรุงรักษาก็ต่ำกว่าเพราะมีชิ้นส่วนน้อยกว่า
เครนแม้จะมีต้นทุนเริ่มต้นสูง แต่หากใช้งานบ่อยจะให้ผลตอบแทนที่ดี เพราะช่วยประหยัดเวลาและแรงงาน การคำนวณระยะเวลาคืนทุนจะช่วยให้ตัดสินใจได้ชัดเจนว่าควรลงทุนในอุปกรณ์ชนิดไหน ต้องพิจารณาถึงอายุการใช้งานและมูลค่าคงเหลือด้วย
ความถี่และลักษณะการใช้งาน
หากต้องใช้งานเพียงแค่บางครั้งหรือเป็นครั้งคราว รอกจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะไม่ต้องการการบำรุงรักษาที่ซับซ้อน และสามารถเก็บไว้ได้เมื่อไม่ใช้งาน การใช้งานในช่วงเวลาสั้น ๆ จะทำให้รอกคุ้มค่ากว่า
โรงงานที่มีการยกย้ายสิ่งของต่อเนื่องตลอดวัน เครนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความล้าของพนักงาน การทำงานแบบอัตโนมัติของเครนจะช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความปลอดภัย ความสม่ำเสมอของการใช้งานจะทำให้เครนให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
สรุปบทความ
รอกเป็นอุปกรณ์ยกแบบพื้นฐานที่เหมาะสำหรับงานเคลื่อนย้ายในแนวดิ่ง ขณะที่เครนเป็นระบบที่ซับซ้อนกว่าและสามารถเคลื่อนย้ายได้หลายทิศทาง การเลือกใช้ให้ถูกต้องจะขึ้นอยู่น้ำหนักสิ่งของ พื้นที่การทำงาน งบประมาณ และความถี่ในการใช้งาน การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้ได้อุปกรณ์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
TTM CRANE ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและติดตั้งเครนโรงงานครบวงจร รวมถึงรอกไฟฟ้าและลิฟต์บรรทุกสินค้า เรามีทีมวิศวกรและช่างมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบยกที่เหมาะสมกับความต้องการของทุกโรงงาน พร้อมบริการหลังการขายที่ครอบคลุมตั้งแต่การบำรุงรักษา การซ่อมแซม การทดสอบ จนถึงการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
📌 เรื่องความคุ้มค่าต้องยกให้เรา TTM Crane
ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์ เครน และงานโมดิฟาย การันตีด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล
ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO คุณภาพ 9001:2015 สิ่งแวดล้อม 14001:2015 ความปลอดภัยและชีวอนามัย 45001:2018
———————————————————-
📌ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำ หรือสอบถามการอบรมได้ที่
📞Tel : 092-874-4551
ID Line: jirayuttm
Facebook: รอกเครนลิฟต์ ttmcrane เครนและรอกไฟฟ้า ทีมตรวจซ่อมบำรุง อะไหล่ อบรมครบวงจร
Email: contact@ttmcrane.com
Website: www.ttmcrane.com













